ADS


Breaking News

แสนสิริคาดการณ์รายได้รวมปี 58 พุ่งทะลุ 3.7 หมื่นล้านบาท เติบโต 25%

แย้มแผนพัฒนาโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส (BTS)
25 โครงการ มูลค่ารวม 1 แสนล้านใน 5 ปี
พร้อมวางแผนเปิดโครงการเพิ่มเติมในตลาดต่างจังหวัด
แสนสิริเผยคาดการณ์สรุปผลงานปี 2558 รายได้รวมพุ่งทะลุ 37,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 25 % จากปีก่อน เกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้และนับเป็นรายได้สูงที่สุดที่แสนสิริเคยทำได้ แย้มแผนเดินหน้าพัฒนาคอนโดมิเนียมแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชนภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส (BTS) ตามแผน 25 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1 แสนล้านบาทใน 5 ปี หลังคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เดอะ ไลน์” (THE LINE) ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมทั้ง 3 โครงการในปี58 เชื่อมั่นตลาดต่างจังหวัดในระยะยาว เตรียมแผนพัฒนาโครงการเพิ่มเติมในตลาดต่างจังหวัด พร้อมรับ AEC ในปี 2559

นายวันจักร์  บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI  เปิดเผยถึงคาดการณ์ผลการดำเนินธุรกิจในปี 2558 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมกว่า 37,000 บาท ซึ่งจะเติบโตขึ้นประมาณ 25 % จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 29,500 ล้านบาท เกินจากเป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้เล็กน้อย แต่นับเป็นรายได้ที่สูงที่สุดที่แสนสิริเคยทำได้ โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายรวมกับการที่บริษัทเริ่มมีรายได้จากการบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส (BTS) ซึ่งนับเป็นปีที่ดีที่สุดของแสนสิริ ทั้งนี้รายได้ที่ดีในปีนี้เติบโตโดดเด่นจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมที่ทยอยโอนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวม 42  โครงการ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ  14 โครงการและต่างจังหวัด 28 โครงการ อาทิ โครงการเดอะ เบส พาร์คอีสต์ สุขุมวิท77, ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท บางแสน, ดีคอนโด โคโค่ สุราษฏร์ธานี, เดอะ เดค ป่าตอง ภูเก็ต และ บ้านไม้ขาว ภูเก็ต เป็นต้น

“การที่ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดีต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีรวมทั้งการที่บริษัทมี Presale Backlog ที่สามารถ Secured Revenue เป้ารายได้ที่สูงมาโดยตลอด ทำให้มั่นใจว่าในสิ้นปี58 บริษัทจะมีรายได้รวมเกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้บริษัทยังคาดว่าจะมีอัตรากำไรสุทธิใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมารวมทั้งคาดว่าจะมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ในช่วง 3 ปีข้างหน้าจากความสำเร็จในการบริหารงานภายใต้แผนงาน “Engineer For Growth” หรือ EFG ทั้งการลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย เพิ่มยอดโอนและเน้นการสร้างกำไรเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่ประกาศไว้ รวมทั้งปัจจุบันบริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ ที่จะรองรับการรับรู้รายได้ใน 3 ปีข้างหน้าแล้ว 27,114 ล้านบาท” นายวันจักร์ กล่าว
สำหรับรายได้รวมในช่วงสิ้นปีซึ่งนับเป็นปีที่ดีที่สุดของแสนสิรินี้จะมาจากรายได้จากการขายรวมกับการที่แสนสิริเริ่มมีรายได้จากการบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส (BTS) ตามแผนความร่วมมือในระยะ 5 ปี ซึ่งแสนสิริและกลุ่มบริษัทบีทีเอสมีแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชนภายใต้บริษัทร่วมทุนจำนวน 25 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1 แสนล้านบาทในช่วง 5 ปี ทั้งนี้บริษัทจะเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2559 หลังจากประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมจากการเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เดอะ ไลน์” (THE LINE) ไปถึง 3 โครงการในปีนี้ ได้แก่ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 และ เดอะ ไลน์ ราชเทวี
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนพัฒนาโครงการในตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง จากความสำเร็จในการขยายการเปิดตัวโครงการ รวมทั้งการทยอยส่งมอบคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดหลายโครงการในปีนี้ โดยคาดว่าภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในตลาดต่างจังหวัดจะฟื้นตัวทั้งจากปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์และแผนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์รวมทั้งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ซึ่งจะเปิดใช้ในปี 2559 ทั้งนี้ ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนับเป็นหัวเมืองหลักทางภาคเหนือนี้ บริษัทพัฒนาโครงการเพื่อตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าไปแล้วทั้งสิ้น 6 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมซึ่งปัจจุบันปิดการขายแล้ว 3 โครงการ ได้แก่ ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท เชียงใหม่, ดีเวียง สันติธรรม และดีคอนโด ซายน์ เชียงใหม่, บ้านเดี่ยว 2 โครงการ ได้แก่ เศรษฐสิริ สันทราย เชียงใหม่ และ บุราสิริ สันผีเสื้อ เชียงใหม่และ ช้อปเฮาส์อีก 1 โครงการภายใต้แบรนด์ บี อเวนิว ทุกโครงการได้รับการตอบรับที่ดีและบริษัทยังมีแผนพัฒนาโครงการใหม่เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าในเชียงใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย