เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวยนตรกรรม 6 รุ่นใหม่ล่าสุดในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถหรูส่งท้ายปี 58 เปิดตัวยนตรกรรม 6 รุ่นใหม่ล่าสุดในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32
กรุงเทพฯ – เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถหรู ส่งท้ายปี 58 ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ 6 รุ่นใหม่ล่าสุด ครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์ อาทิ The new GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic, The new GLE 250 d 4MATIC ที่มาใน 2 ดีไซน์ คือ Exclusive และ AMG Dynamic, The new A 180 Style, The new B 200 Urban และ G 350 d Sport พร้อมยนตรกรรมหรูอีกกว่า 32 รุ่น มาจัดแสดงภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป หรือมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 2 –13 ธันวาคม 2558 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์พรีเมี่ยม บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้แก่กลุ่มลูกค้าและผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป หรือมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 นี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จึงมีความภาคภูมิใจนำเสนอยนตรกรรมใหม่ล่าสุดกว่า 6 รุ่น ที่สะท้อนคุณค่าของแบรนด์ ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination) และความสมบูรณ์แบบ (Perfection) ออกมาอย่างลงตัว ผ่านรูปโฉมที่ได้รับการออกแบบอย่างปราดเปรียว และ โฉบเฉี่ยว เทคโนโลยีที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาอย่างล้ำสมัย รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ นอกจากนี้ ภายในงานเรายังได้จัดเตรียมพื้นที่กว่า 1,884 ตารางเมตร ซึ่งนับว่าเป็นพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ที่สุด ไว้สำหรับจัดแสดงยนตรกรรมหรูกว่า 32 คัน ในทุกเซ็กเมนต์ ไม่ว่าจะเป็น Contemporary Luxury, Compact Car และ Dream Car เพื่อให้ลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เลือกสรรอย่างครบครันอีกด้วย”
มร.มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับไฮไลท์พิเศษของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โปปีนี้ คือ การนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมกันถึง 6 รุ่น ครบครันใน ทุกเซ็กเมนต์ นำโดย The new GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic, The new GLE 250 d 4MATIC ที่มาใน 2 ดีไซน์ คือ Exclusive และ AMG Dynamic, The new A 180 Style, The new B 200 Urban และ G 350 d Sport เพื่อตอบสนอง ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในทุกกลุ่ม นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังมอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อรถยนต์ภายในงาน พร้อมเข้าร่วมโปรแกรมทางการเงิน mySTAR Special ที่ให้คุณได้รับอัตราชำระต่อเดือนต่ำเพียง 1% ของราคารถยนต์ อีกทั้งประหยัดดอกเบี้ยมากยิ่งขึ้นตลอดอายุสัญญา รวมถึงแคมเปญพิเศษ สำหรับผู้ถือบัตร MercedesCard ด้วยการมอบเงินสนับสนุนจำนวน 50,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ชำระค่าจองหรือเงินดาวน์รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในรุ่นที่กำหนด ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2558
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
The new GLE Coupé AMG Dynamic: หรูหรา ทันสมัย สไตล์สปอร์ตเอสยูวี
The new GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic มาพร้อมกับ
ดีไซน์ภายนอก ที่ดูสปอร์ต และปราดเปรียว ด้วยลายเส้นโค้งเว้าที่ให้ความรู้สึกพลิ้วไหว พร้อมความรู้สึก อันแข็งแกร่งจากกระจังหน้าขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง เสริมไฟหน้าโค้งมนและกรอบไฟแบบ LED Intelligent Light System โดดเด่นด้วย ชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG ซึ่งประกอบด้วย กันชนหน้า-หลัง ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว แบบ AMG 5 ก้านคู่ เส้นสายของหลังคาถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย แสดงถึง ความเรียบหรูและล้ำสมัย พร้อมพาโนรามิคซันรูฟ ซึ่งสามารถ เลื่อนเปิด-ปิดได้อัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า สำหรับ
ดีไซน์ภายใน ยังคงความหรูหรา สง่างาม ด้วยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพชั้นดีที่ยืดหยุ่นต่อการใช้งานและสามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย เบาะนั่งด้านหลังแบบ 3 ที่นั่ง สามารถพับได้แบบ 1/3 : 2/3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังเพิ่มเติมความสะดวกและความบันเทิงในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยระบบ COMAND Online และระบบควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad
ด้านเทคโนโลยี มาพร้อมกับระบบ Dynamic Select ที่มีโหมดการขับขี่ 4 แบบ คือ Individual ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้, Comfort ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายเหมือนขับรถซาลูน, Slippery เหมาะกับการวิ่งบนถนนที่ลื่น, Sport เน้นการเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังได้ติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบอากาศพร้อมระบบควบคุมระดับ ADS (Adaptive Damping System) เพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสภาพถนน
ดีไซน์ภายนอก ที่ดูสปอร์ต และปราดเปรียว ด้วยลายเส้นโค้งเว้าที่ให้ความรู้สึกพลิ้วไหว พร้อมความรู้สึก อันแข็งแกร่งจากกระจังหน้าขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง เสริมไฟหน้าโค้งมนและกรอบไฟแบบ LED Intelligent Light System โดดเด่นด้วย ชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG ซึ่งประกอบด้วย กันชนหน้า-หลัง ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว แบบ AMG 5 ก้านคู่ เส้นสายของหลังคาถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย แสดงถึง ความเรียบหรูและล้ำสมัย พร้อมพาโนรามิคซันรูฟ ซึ่งสามารถ เลื่อนเปิด-ปิดได้อัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า สำหรับ
ดีไซน์ภายใน ยังคงความหรูหรา สง่างาม ด้วยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพชั้นดีที่ยืดหยุ่นต่อการใช้งานและสามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย เบาะนั่งด้านหลังแบบ 3 ที่นั่ง สามารถพับได้แบบ 1/3 : 2/3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังเพิ่มเติมความสะดวกและความบันเทิงในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยระบบ COMAND Online และระบบควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad
ด้านเทคโนโลยี มาพร้อมกับระบบ Dynamic Select ที่มีโหมดการขับขี่ 4 แบบ คือ Individual ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้, Comfort ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายเหมือนขับรถซาลูน, Slippery เหมาะกับการวิ่งบนถนนที่ลื่น, Sport เน้นการเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังได้ติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบอากาศพร้อมระบบควบคุมระดับ ADS (Adaptive Damping System) เพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสภาพถนน
The new GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแบบ V6 เทอร์โบ พร้อมเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า แบบ 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 2,987 ซีซีกำลังแรงม้าสูงสุดที่ 258 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิด 620 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 7.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 226 กม./ชม. ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Permanent all-wheel drive
The new GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic ราคา 6,690,000 บาท
The new GLE-Class รถยนต์สไตล์ครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งปรับโฉมมาจาก M-Class ที่ยังคงสะท้อนถึงตัวตนที่บ่งบอกประสิทธิภาพความแข็งแกร่ง คล่องแคล่ว ปราดเปรียว มีดีไซน์และสไตล์เป็นของตนเอง โดย
ดีไซน์ภายนอก ดูโดดเด่น มากยิ่งขึ้นด้วยลายเส้นสวยคมสะดุดตา พร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ เส้นสายหลังคาถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย ที่เน้นดีไซน์แบบเรียบหรู ล้ำสมัย โดยรุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ คือ GLE 250 d 4MATIC Exclusive และ GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic ที่ตกแต่งด้วยกระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียมแบบ 2 แถบ พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง, กันชนด้านหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยโครเมียม, ขอบหน้าต่างแบบโครเมียม, ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ, ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System, ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน, ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED, กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ โดย GLE 250 d 4MATIC Exclusive จะมาพร้อมกับล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว สีเทา ส่วน GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic จะเพิ่มลุคสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยล้ออัลลอย ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 20 นิ้ว สีเทา, ชุดแต่ง AMG bodystyling ที่บริเวณกันชนหน้า-หลัง, ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า, บันไดข้าง สเตนเลสดีไซน์สปอร์ต รวมถึงเพิ่มความรู้สึกกว้างขวางด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อน เปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า (Electric panoramic sliding glass sunroof) สำหรับ
ดีไซน์ภายใน ยังคงเน้นความหรูหรา สง่างาม แต่แฝงกลิ่นอายความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิม โดยทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับด้านบนของคอนโซลหน้า และด้านบนของแผงหุ้มประตูหุ้มด้วยหนัง Artico, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push start), ระบบควบคุม THERMATIC แบบ 2 โซน ระบบเชื่อมต่อสื่อบันเทิง (media interface) และอุปกรณ์เครื่องเสียง อย่าง วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 พร้อมมอนิเตอร์ขนาด 8 นิ้ว, ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth โดยสำหรับ GLE 250 d 4MATIC Exclusive ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง และสำหรับ GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic จะตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง nappa อีกทั้งยังมาพร้อมกับชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต และระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon® Logic 7® นอกจากนี้
ห้องโดยสารภายใน ของทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้ทั้ง 1:3 / 2:3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น พร้อมเพิ่มสุนทรียศาสตร์แห่งการขับขี่ด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 3 สี GLE 250 d 4MATIC Exclusive และ GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ รวมถึงเกียร์อัตโนมัติแบบ 9G-TRONIC พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600-1,800 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 212 กม./ชม.
ดีไซน์ภายนอก ดูโดดเด่น มากยิ่งขึ้นด้วยลายเส้นสวยคมสะดุดตา พร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ เส้นสายหลังคาถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย ที่เน้นดีไซน์แบบเรียบหรู ล้ำสมัย โดยรุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ คือ GLE 250 d 4MATIC Exclusive และ GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic ที่ตกแต่งด้วยกระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียมแบบ 2 แถบ พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง, กันชนด้านหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยโครเมียม, ขอบหน้าต่างแบบโครเมียม, ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ, ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System, ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน, ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED, กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ โดย GLE 250 d 4MATIC Exclusive จะมาพร้อมกับล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว สีเทา ส่วน GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic จะเพิ่มลุคสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยล้ออัลลอย ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 20 นิ้ว สีเทา, ชุดแต่ง AMG bodystyling ที่บริเวณกันชนหน้า-หลัง, ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า, บันไดข้าง สเตนเลสดีไซน์สปอร์ต รวมถึงเพิ่มความรู้สึกกว้างขวางด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อน เปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า (Electric panoramic sliding glass sunroof) สำหรับ
ดีไซน์ภายใน ยังคงเน้นความหรูหรา สง่างาม แต่แฝงกลิ่นอายความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิม โดยทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับด้านบนของคอนโซลหน้า และด้านบนของแผงหุ้มประตูหุ้มด้วยหนัง Artico, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push start), ระบบควบคุม THERMATIC แบบ 2 โซน ระบบเชื่อมต่อสื่อบันเทิง (media interface) และอุปกรณ์เครื่องเสียง อย่าง วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 พร้อมมอนิเตอร์ขนาด 8 นิ้ว, ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth โดยสำหรับ GLE 250 d 4MATIC Exclusive ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง และสำหรับ GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic จะตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง nappa อีกทั้งยังมาพร้อมกับชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต และระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon® Logic 7® นอกจากนี้
ห้องโดยสารภายใน ของทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้ทั้ง 1:3 / 2:3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น พร้อมเพิ่มสุนทรียศาสตร์แห่งการขับขี่ด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 3 สี GLE 250 d 4MATIC Exclusive และ GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ รวมถึงเกียร์อัตโนมัติแบบ 9G-TRONIC พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600-1,800 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 212 กม./ชม.
- GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic ราคา 5,490,000 บาท
A 180 Style โฉมใหม่ ถูกออกแบบให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างลงตัว ด้วยการนำเสนอมิติใหม่ของยนตรกรรมที่ผสมผสานความโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว เข้ากับ ความสะดวกสบายขณะขับขี่ โดย
ดีไซน์ภายนอก ยังคงออกแบบโดยยึดหลักความเรียบง่ายที่ ถ่ายทอดผ่านลายเส้นด้านข้างตัวรถที่พลิ้วไหวสะดุดตา และกรอบหน้าต่างที่ลาดต่ำ พร้อมกันชนหน้าโฉมใหม่ที่มีลักษณะคล้ายลูกศรซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถยนต์ Concept A-Class, กระจังหน้าแบบ Diamond grille พร้อมหมุดสีดำ, ชุดไฟหน้าแบบ LED High Performance, ชุดไฟท้ายแบบใหม่ สำหรับ
ดีไซน์ภายใน ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดให้ดูทันสมัย และปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ ยังมาพร้อม
เทคโนโลยี DYNAMIC SELECT ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์ อาทิ ระบบเกียร์ ระบบกันสะเทือน พวงมาลัย หรือแม้กระทั่งระบบปรับอากาศห้องโดยสารจากปุ่มควบคุมเพียง ปลายนิ้วสัมผัส โดยการตั้งค่าดังกล่าวมีให้เลือกด้วยกันถึง 4 รูปแบบ ได้แก่ Comfort, Sport, Eco และ Individual
ดีไซน์ภายนอก ยังคงออกแบบโดยยึดหลักความเรียบง่ายที่ ถ่ายทอดผ่านลายเส้นด้านข้างตัวรถที่พลิ้วไหวสะดุดตา และกรอบหน้าต่างที่ลาดต่ำ พร้อมกันชนหน้าโฉมใหม่ที่มีลักษณะคล้ายลูกศรซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถยนต์ Concept A-Class, กระจังหน้าแบบ Diamond grille พร้อมหมุดสีดำ, ชุดไฟหน้าแบบ LED High Performance, ชุดไฟท้ายแบบใหม่ สำหรับ
ดีไซน์ภายใน ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดให้ดูทันสมัย และปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ ยังมาพร้อม
เทคโนโลยี DYNAMIC SELECT ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์ อาทิ ระบบเกียร์ ระบบกันสะเทือน พวงมาลัย หรือแม้กระทั่งระบบปรับอากาศห้องโดยสารจากปุ่มควบคุมเพียง ปลายนิ้วสัมผัส โดยการตั้งค่าดังกล่าวมีให้เลือกด้วยกันถึง 4 รูปแบบ ได้แก่ Comfort, Sport, Eco และ Individual
A 180 Style โฉมใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 122 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิด 200 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,250 – 4,000 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 202 กม./ชม.
A 180 Style ราคา 1,990,000 บาท
A 180 Style ราคา 1,990,000 บาท
The new B 200 Urban : ดีไซน์โฉมใหม่ ทันสมัยกว่าที่เคยในสไตล์ Compact Sports Tourer
The B-Class ใหม่ โมเดลปี 2015 นับเป็น B-Class เจเนอเรชั่นที่ 3 ที่มาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนรูปโฉมดีไซน์ใหม่ เพื่อให้มีความโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังคง ความสวยงามและพื้นที่ประโยชน์ใช้สอยในแบบรถครอบครัวฺเอาไว้เช่นเดิม โดยสำหรับ
ดีไซน์ภายนอก ยังคงความโดดเด่นสไตล์รถยนต์ Compact Sports Tourer ด้วยแนวเส้น ด้านหน้าที่เริ่มจากฝากระโปรงหน้าไหลลื่นต่อเนื่องไปยังแนวหลังคาและสปอยเลอร์หลังคา แนวเส้นด้านข้างที่เฉียบคมเสริมลุคให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้านหน้ามาพร้อมกับกระจังหน้า ดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง และแผงกันชนหน้าที่มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงไฟหน้า-หลังใหม่ แบบ LED High Performance พร้อมเสริมไฟหน้าด้วยไฟ daytime เพื่อใช้สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
ดีไซน์ภายใน มาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มหนัง Leather พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น รวมถึงปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push start), วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 รองรับการใช้งานระบบนำทาง (Pre-installation SD Card Navigation)
ห้องโดยสาร ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นไปด้วย ความสะดวกสบายสูงสุด ด้วยเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อม หน่วยบันทึกความจำ โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้ทั้ง 1:3 / 2:3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น รวมถึงช่วยเติมเต็มทุกบรรยากาศการขับขี่ด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ที่มีให้เลือกถึง 12 สี ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ รวมถึงความเข้มอ่อนของแสงได้ 5 ระดับ เป็นต้น
The B-Class ใหม่ โมเดลปี 2015 นับเป็น B-Class เจเนอเรชั่นที่ 3 ที่มาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนรูปโฉมดีไซน์ใหม่ เพื่อให้มีความโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังคง ความสวยงามและพื้นที่ประโยชน์ใช้สอยในแบบรถครอบครัวฺเอาไว้เช่นเดิม โดยสำหรับ
ดีไซน์ภายนอก ยังคงความโดดเด่นสไตล์รถยนต์ Compact Sports Tourer ด้วยแนวเส้น ด้านหน้าที่เริ่มจากฝากระโปรงหน้าไหลลื่นต่อเนื่องไปยังแนวหลังคาและสปอยเลอร์หลังคา แนวเส้นด้านข้างที่เฉียบคมเสริมลุคให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้านหน้ามาพร้อมกับกระจังหน้า ดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง และแผงกันชนหน้าที่มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงไฟหน้า-หลังใหม่ แบบ LED High Performance พร้อมเสริมไฟหน้าด้วยไฟ daytime เพื่อใช้สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
ดีไซน์ภายใน มาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มหนัง Leather พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น รวมถึงปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push start), วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 รองรับการใช้งานระบบนำทาง (Pre-installation SD Card Navigation)
ห้องโดยสาร ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นไปด้วย ความสะดวกสบายสูงสุด ด้วยเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อม หน่วยบันทึกความจำ โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้ทั้ง 1:3 / 2:3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น รวมถึงช่วยเติมเต็มทุกบรรยากาศการขับขี่ด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ที่มีให้เลือกถึง 12 สี ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ รวมถึงความเข้มอ่อนของแสงได้ 5 ระดับ เป็นต้น
B 200 Urban ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 7G-DCT ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,250 – 4,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. B 200 Urban ราคา 2,440,000 บาท
ดีไซน์ภายนอก ถูกออกแบบให้ดูสปอร์ต แข็งแกร่งและดุดันมากยิ่งขึ้น ด้วยกันชนรูปแบบใหม่ จากแบรนด์ AMG ที่มีสีเดียวกับตัวรถ รวมถึงล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ 5 ก้าน ขนาด 19 นิ้ว ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ดีไซน์ภายใน ได้รับการดีไซน์ให้สอดคล้องกับภายนอก ด้วยเส้นด้าย เบาะรถยนต์สีเดียวกับตัวรถ แผงหน้าปัดสำหรับผู้ขับขี่ 2 แผง หน้าจอแบบ Multifunction หน้าปัดและเข็มชี้ใหม่ รวมถึงหน้าปัดแบบสปอร์ต นอกจากนี้ The new G-Class ยังมาพร้อมแพ็คเกจตกแต่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ สีสำหรับภายนอกรถยนต์ที่มีให้เลือกสรรกว่า 13 สี ในด้าน
เทคโนโลยีและความปลอดภัย The new G-Class มาพร้อมความก้าวล้ำไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสะเทือนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของรถ ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสัมผัสกับความนุ่มสบายที่เพิ่มขึ้นขณะขับขี่บนท้องถนน ระบบ ESP ที่ปรับตั้งค่าได้โดยอัตโนมัติเพื่อรักษาสมดุลและความปลอดภัย ระบบเบรก ABS และระบบป้องกันการลื่นไถล ASR ที่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะบนผิวถนนพร้อมลดระยะการเบรกลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
G 350 d Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ความจุกระบอกสูบ 2,987 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 245 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 600 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600 – 2,400 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 192 กม./ชม.
G 350 d Sport ราคา 8,490,000 บาท