ทูฟ ซูด จับมือ สภาอุตสาหกรรมฯ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง
เพื่อส่งเสริมศักยภาพแก่ผู้ประกอบการไทยในด้านมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยระดับสากล
ร่วมผลักดันบริษัทของคนไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
เพื่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เข้าสู่ตลาดได้เร็วยิ่งขึ้น
กรุงเทพฯ (28 สิงหาคม 2558) – ทูฟ ซูด หนึ่งในหน่วยงานรับรองมาตรฐาน (Certification body) ระดับโลกด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และการสร้างความยั่งยืน จับมือกับพันธมิตรผู้มีอิทธิพลในแวดวงอุตสาหกรรมไทยอย่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) เพื่อช่วยเหลือสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมฯ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจด้านต่างๆ กว่า 8,000 ราย เพื่อสร้างเสริมศักยภาพ ด้วยมาตรฐานคุณภาพ และความปลอดภัยในระดับสากล ด้วยการร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง หรือ MoU โดยเป็นความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนความรู้ และการให้คำแนะนำอย่างเจาะลึกเกี่ยวกับกระบวนการการทดสอบ การตรวจสอบ และการตรวจรับรองผลิตภัณฑ์ ที่จะช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำผลิตภัณฑ์และบริการของตน เข้าแข่งขันสู่ตลาดโลกได้เร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดอุปสรรคด้านการค้าที่เกี่ยวกับกฎข้อบังคับด้านมาตรฐานต่างๆ โดยในเฟสแรกของโครงการ ทั้งสองหน่วยงานตั้งเป้ามุ่งขยายผลสู่องค์กรที่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี (SMEs) กว่า 3,900 รายทั่วประเทศ รวมถึงผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมชั้นนำต่างๆ
ด้วยการลงนามในบันทึกข้อตกลง หรือ MoU ฉบับนี้ สมาชิกของสภาอุตสาหกรรมฯ จะมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาของการทดสอบ การตรวจสอบ และการตรวจรับรองผลิตภัณฑ์ ผ่านการจัดฝึกอบรมต่างๆ โดยจะนำมาซึ่งความร่วมมือกันในการบริหารโครงการต่างๆ ไปจนถึงการสำรวจโอกาสอื่นๆ ที่เกิดจากการทำงานร่วมกัน โดยสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมฯ ยังมีโอกาสร่วมทำงานกับทูฟ ซูด ในการเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนการตรวจรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม เพื่อปรับปรุงองค์กรของตนให้เกิดศักยภาพในการแข่งขันระดับสากลต่อไป
มร. เคลาส์ แลงเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินของ ทูฟ ซูด อาเซียน กล่าว “ทูฟ ซูด ก่อตั้งขึ้นเมื่อเกือบ 150 ปีก่อน เพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ปลอดภัยและยั่งยืนกว่า เราได้ร่วมทำงานเคียงข้างหน่วยงานของรัฐบาลและองค์กรธุรกิจเอกชนในประเทศต่างๆ มากมาย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันระดับโลก เรามีความยินดีที่ได้สานต่อภารกิจนี้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยสามารถก้าวข้ามผ่านกระบวนการอันซับซ้อนในการยกระดับมาตรฐานของตนให้สอดคล้องกับมาตรฐานในระดับสากล เมื่อสามารถสร้างมาตรฐานให้ทัดเทียมกับของนานาชาติแล้ว ผู้ประกอบการก็จะมีศักยภาพในการโน้มน้าวให้ประเทศต่างๆ หันมานำเข้าสินค้าและบริการจากบริษัทของตนได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การมีมาตรฐานที่สอดคล้องกับมาตรฐานระดับสากลยังหมายความว่าผู้ประกอบการไทยจะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน รวมไปถึงความสามารถด้านต่างๆ เช่น ความปลอดภัย คุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ ไปจนถึงความน่าเชื่อถือ”
นายเจน นำชัยศิริ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติม “ด้วยปัจจัยในแง่บวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงภาคการค้าที่ขยายตัว ผู้ประกอบการไทยต่างมองเห็นสัญญาณที่ดีเกี่ยวกับผลประกอบการของตนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าทุกอย่างกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรธุรกิจที่เป็นเอสเอ็มอี อาจยังไม่สามารถแข่งขันได้ดีเท่าที่หวังไว้ในเวทีระดับโลก ทั้งนี้เป็นเพราะบริษัทมากมายยังคงขาดการรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงความรู้ที่เกี่ยวกับการปฏิบัติที่สอดคล้องกับระบบมาตรฐานอุตสาหกรรม อันนำมาสู่การเติบโตของุรกิจที่ช้าลงและเป็นอุปสรรคต่อการเป็นที่รู้จักในตลาดโลก การลงนามในบันทึกข้อตกลงหรือ MOU ร่วมกับทูฟ ซูด ฉบับนี้ จะช่วยให้เกิดแพล็ตฟอร์มด้านความการสนับสนุนให้สมาชิกของสภาอุตสาหกรรมสามารถเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับโซลูชั่นด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และการสร้างความยั่งยืน ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจของตนให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้อย่างมีศักยภาพ”
นอกจากพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงที่จัดขึ้นในวันที่ 28 สิงหาคม 2558 แล้ว ทูฟ ซูด ยังจัดงานสัมมนา “2015 TÜV SÜD Environment Day” ขึ้น ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ โดยมีวิทยากรรับเชิญผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากทูฟ ซูด และจากบริษัทที่เป็นลูกค้าของทูฟ ซูด อาทิ บีเอ็มดับบลิว ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ล่าสุดเกี่ยวกับหลักการดำเนินธุรกิจที่ดีที่จะช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม โดยในงาน ทูฟ ซูด ยังมีการมอบใบรับรองมาตรฐานระบบจัดการด้านสิ่งแวดล้อม มาตรฐาน ISO 14001 ให้กับบริษัท บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด อีกด้วย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทูฟ ซูด กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.tuv-sud.co.th/
ทูฟ ซูด หนึ่งในหน่วยงานรับรองมาตรฐานชั้นนำระดับโลกด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และการสร้างความยั่งยืน ให้บริการทดสอบ ตรวจสอบ ตรวจรับรอง ให้รับรอง ไปจนถึงอบรมทักษะความรู้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2409 ทูฟ ซูด มุ่งมั่นต่อหลักการในการก่อตั้งบริษัทฯ เพื่อปกป้องผู้คน ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม จากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน ทูฟ ซูด มีสาขาในกว่า 800 แห่งทั่วโลก โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ มากมายที่ทำงานในห้องปฏิบัติการของทูฟ ซูด กว่า 22,000 คน ด้วยการรวมความเชี่ยวชาญเข้ากับความรู้อันถ่องแท้ ในด้านอุตสาหกรรมต่างๆ ทำให้ ทูฟ ซูด สามารถ เพิ่มคุณค่าให้กับธุรกิจ ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมอย่างเห็นได้ชัด ทูฟ ซูด ตั้งเป้าในการสนับสนุนลูกค้าทั่วโลกด้วยบริการอันครบวงจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และจัดการความเสี่ยง อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทได้ที่: www.tuv-sud.com