MQDC เนรมิต ‘คอมมูนิตี้แห่งอนาคต’ ใช้ชื่อ “Whizdom 101”
MQDC ระดมพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญระดับท็อปของโลก
เนรมิต ‘คอมมูนิตี้แห่งอนาคต’ ขนาด 43 ไร่มูลค่า 30,000 ล้านบาทบนถนนสุขุมวิท – ใช้ชื่อ “Whizdom 101”
- โครงการบนเนื้อที่ 43 ไร่นี้ เป็นโครงการสำคัญระดับแฟล็กชิป สำหรับแบรนด์ “วิสซ์ดอม” ของบริษัท MQDC
- พัฒนาภายใต้แนวคิด “The Great Good Place”
- เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นกลุ่มเป้าหมาย
- ที่แรกในไทย – เปิดตัวเลนจักรยานและลู่วิ่งลอยฟ้า แบบหลายระดับภายในอาคาร ระยะทาง 1.3 กม.
- สร้างหนึ่งในสปอร์ตคลับใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี – บริหารงานอย่างมืออาชีพโดยผู้บริหารคลับที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา
- ที่แรกในไทย – เนรมิตสังคมที่เชื่อมต่อโครงข่ายดิจิตอลแบบครบวงจร
- มุ่งเป้ารับประโยชน์จากเออีซี
กรุงเทพฯ (7 กรกฎาคม 2558) – วันนี้ MQDC (แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียมและโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพระดับลักชัวรี่ เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัยและโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพแบรนด์ Whizdom ประกาศว่า บริษัทเตรียมทุ่มเงินลงทุน 30,000 ล้านบาท สร้าง “คอมมูนิตี้แห่งอนาคต” ซึ่งจะประกอบไปด้วยพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ ที่พักอาศัย ร้านค้าปลีก สำนักงาน บนเนื้อที่ทั้งหมด 43 ไร่ และจะกลายเป็นหนึ่งในโครงการที่ใหญ่ที่สุดบนถนนสุขุมวิท โดยใช้ชื่อโครงการว่า “Whizdom 101” (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน)
Whizdom 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) จะถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “The Great Good Place” ที่ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวที่สุด ระหว่างที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และที่พักผ่อนทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ โดยพื้นที่เพื่อกิจกรรมทางสังคมนี้จะเป็นหัวใจสำคัญ และเป็นปัจจัยความสำเร็จของโครงการ ด้วยการมอบพื้นที่ ที่ผู้คนสามารถปลีกตัวออกจากภาระหน้าที่ทั้งเรื่องบ้านและเรื่องงาน มาพักผ่อนหย่อนใจ และมีความสุขกับการพบปะสังสรรค์กับผู้คนในชุมชนได้อย่างเต็มที่
พื้นที่ในส่วนเชิงพาณิชย์ทั้งหมดของโครงการถูกออกแบบในคอนเซ็ปต์ไฮบริด (Hybrid) ที่ผสมผสานพื้นที่ภายในและภายนอกอาคารเข้าด้วยกันในขนาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ในโครงการยังจัดให้มีเลนจักรยานและลู่วิ่งลอยฟ้าแบบหลายระดับ (multi-level) ภายในอาคาร ที่แรกในประเทศไทย ซึ่งใช้ชื่อว่า วิสซ์ดอม แทร็ก (Whizdom Track) มีระยะทาง 1.3 กิโลเมตร วิ่งผ่านทั้งพื้นที่ในอาคารและนอกอาคาร เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สวนลอยฟ้าแบบหลายระดับขนาดยักษ์ของโครงการ
โครงการมิกซ์ยูสแห่งนี้ มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2561 โดยได้ทำงานร่วมกับที่ปรึกษา ซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญระดับท็อปของโลก ทั้งในด้านการวางแผนพื้นที่โครงการ การออกแบบสถาปัตยกรรม การออกแบบภูมิทัศน์ และงานที่ใช้ความชำนาญเฉพาะทางอื่นๆ อีกมากมายในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมุ่งเน้นเจาะกลุ่มผู้ซื้อในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่มองหาโครงการที่ได้มาตรฐานระดับโลก
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC กล่าวว่า “การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลายเป็นเรื่องของการนำเสนอและส่งมอบไลฟ์สไตล์หรือรูปแบบการใช้ชีวิตให้กับผู้คน ไม่ใช่เป็นแค่การก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ เราจึงทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับแถวหน้าของประเทศไทย และของโลก เพื่อช่วยกันออกแบบและสร้างชุมชน ที่ทั้งหมดของสังคมแห่งนี้จะอยู่ในมาตรฐานระดับโลก เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบด้วยพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ พื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการเล่นกีฬาที่ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอย่างเป็นระบบระเบียบและมีการวางแผนเป็นอย่างดี”
“Whizdom 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) เป็นโครงการบุกเบิกแรก ๆ ในประเทศไทยที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพที่ดีให้กับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกันกับพื้นที่ในโครงการทั้งที่พักอาศัย สำนักงาน พื้นที่เพื่อการพานิชย์ และอื่น ๆ”
“ในโครงการจะครบถ้วนไปด้วยสวนหย่อม พื้นที่สาธารณะ และพื้นที่อื่นๆ ที่จะช่วยส่งเสริมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี สำหรับคนในสังคม และจะเป็นสิ่งตอกย้ำในเรื่องของความยั่งยืน ของโครงการได้อย่างดีเยี่ยมและชัดเจนอีกด้วย”
“พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของโลกในด้านการออกแบบและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีชีวิตที่ดีอย่างครบวงจร” นายวิสิษฐ์ กล่าว
- ในจำนวนบริษัทผู้เชี่ยวชาญระดับโลกที่ MQDC ทาบทามมาร่วมงานได้แก่ เกนสเลอร์ (Gensler) หนึ่งในบริษัทผู้เชียวชาญการออกแบบที่มีชื่อเสียงชั้นนำของโลก ผู้มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในงานออกแบบโครงการขนาดใหญ่ในเมืองต่างๆ เพื่อสร้างชุมชนให้น่าอยู่อาศัยยิ่งขึ้น โดยเกนสเลอร์เป็นบริษัทออกแบบที่ทำงานให้กับ 66 บริษัทชั้นนำที่ติดอันดับอยู่ในกลุ่มท็อป 100 ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของโลก 500 อันดับแรกจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์จูน โดยออกแบบทุกอย่างตั้งแต่สนามบินไปจนถึงไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์และตึกระฟ้าที่เป็นแลนด์มาร์ค ทั้งนี้การทำงานในประเทศไทย เกนสเลอร์จะเป็นผู้ร่วมให้แนวคิดด้านการออกแบบกับบริษัทดี ไอ ดีไซน์ (DiDesigns)
- MQDC ยังได้ทาบทามร็อคเวล กรุ๊ป (Rockwell Group) ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบชั้นนำอีกแห่งหนึ่งของโลก และมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมและพื้นที่อยู่อาศัยที่ทุกองค์ประกอบสอดประสานกลมกลืน และสะดวกสบาย
- คลับคอร์ป (ClubCorp) หนึ่งในผู้บริหารและเจ้าของคลับส่วนตัวชั้นนำของโลก รวมถึงสถานที่พักผ่อนและท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ จะรับหน้าที่บริหารศูนย์กีฬาและสุขภาพรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้บริการแก่ชุมชน โดยคลับคอร์ปเป็นผู้บริหารสปอร์ตคลับ สนามกอล์ฟและคันครี่คลับ สโมสรธุรกิจและสโมสรศิษย์เก่ามากกว่า 200 โครงการทั่วโลก
“Whizdom 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) จะเป็นสังคมดิจิตอลที่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทย ที่ซึ่งสำนักงาน ที่พักอาศัย ร้านค้าปลีก และสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดจะอยู่บนโครงข่ายดิจิตอลแพลตฟอร์มเดียวกัน ทำให้โครงการแห่งนี้มีลักษณะเป็นเมืองดิจิตอลที่เชื่อมประสานกันเป็นเครือข่ายแบบไร้รอยต่อ โดยพื้นที่ทั้งหมดจะสามารถเชื่อมต่อไวไฟ (wifi) ที่มีความเร็วสูงสุดได้ฟรี ทำให้ทุกคนในสังคมแห่งนี้มีอิสรภาพในโลกดิจิตอลแบบไร้ขีดจำกัด” นายวิสิษฐ์กล่าว
“แต่ละบริษัทที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรต่างมุ่งมั่นและคาดหวังที่จะสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกระดับมาสเตอร์พีซของตนเองในประเทศไทย ซึ่งเรามีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้เห็นความกระตือรือร้นและพลังความทุ่มเทของแต่ละบริษัทที่จะเนรมิตให้โครงการนี้เป็นผลงานมาสเตอร์พีซของเขาบนผืนแผ่นดินไทย เช่นเดียวกับที่โครงการนี้จะเป็นโครงการสำคัญของแบรนด์วิสซ์ดอม และบริษัท MQDC” นายวิสิษฐ์ กล่าว
นายวิสิษฐ์ กล่าวว่า “เราเน้นให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งนั่นคือภารกิจที่พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศของเราจะต้องร่วมกันทำให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม โดยใช้ความรู้เชี่ยวชาญระดับโลกที่ดีที่สุด ทุกองค์ประกอบของโครงการจะผ่านกระบวนการคิดอย่างละเอียดรอบคอบในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การวางผังตำแหน่งอาคารต่างๆ ในพื้นที่โครงการ เพื่อให้เอื้อต่อการถ่ายเทอากาศบริสุทธิ์และการพัดพาของลมเย็น ไปจนถึงการหาวิธีลดผลกระทบทางทัศนวิสัยจากโครงสร้างอาคาร และการทำให้ผู้คนในโครงการรู้สึกผสานกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตที่เป็นธรรมชาติ ร่มรื่น และเขียวขจี”
โครงการ Whizdom 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) จะมีความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากได้จัดสรรพื้นที่ขนาดใหญ่ภายในโครงการ ในสัดส่วนที่ใหญ่ถึง 65% ของที่ดินทั้งหมดของโครงการ ให้เป็นพื้นที่เปิดโล่ง และ 30% ของที่ดินทั้งหมดของโครงการ จะเป็นพื้นที่สำหรับต้นไม้ใบหญ้าที่เชียวชอุ่ม โดยจัดสรรให้อย่างเต็มที่ด้วยพื้นที่ขนาดกว้าง 280 เมตร ลึก 325 เมตรโดยประมาณ
“ผู้คนจะมีพื้นที่ชุมชนและพื้นที่สีเขียวที่เป็นธรรมชาติที่สามารถใช้เวลาของตัวเองอย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติได้ มากไปกว่าการใช้เวลาว่างอยู่ในคอฟฟี่ช็อปและร้านค้าหรือสถานที่เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ เพียงอย่างเดียว ซึ่งนี่จะทำให้โครงการโดยรวมเป็นที่ดึงดูดใจสำหรับครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มีบุตรหลานซึ่งกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนและสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับโครงการ” นายวิสิษฐ์ กล่าว
พื้นที่สาธารณะและแนวคิดแปลกใหม่นี้ของโครงการจะก่อให้เกิดประโยชน์สำหรับสังคมโดยรวมทั้งหมดในพื้นที่ รวมทั้งจะช่วยยกระดับมูลค่าที่ดินให้กับที่ดินในย่านใกล้เคียงให้สูงขึ้นด้วย
Whizdom 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) จะมีพื้นที่ในอาคาร (GFA) ทั้งสิ้นประมาณ 340,000 ตารางเมตร โดยในจำนวนนี้พื้นที่ประมาณหนึ่งในสามจะเป็นส่วนที่พักอาศัย และสองในสามเป็นพื้นที่เพื่อการพาณิชย์
- สโมสรกีฬาและสุขภาพ จะเป็นหนึ่งในสโมสรกีฬาและสุขภาพที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร ซึ่งนอกจากอุปกรณ์ สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับฟิตเนสและสปอร์ตคลับแล้ว ยังมีห้องนั่งเล่นสำหรับการทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ (Social Lounge), มีโซนสำหรับครอบครัว, คอร์ทเทนนิสในร่ม, และสระว่ายน้ำแบบชายทะเลสไตล์รีสอร์ทแห่งแรกในกรุงเทพฯ
- พื้นที่ร้านค้าปลีก จะมีพื้นที่ประมาณ 20,000 ตารางเมตร ซึ่งจะถูกออกแบบอย่างสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ใหญ่ของโครงการ ที่ผสมผสานพื้นที่ในอาคารและพื้นที่นอกอาคาร เข้ากับพื้นที่ว่างสำหรับการทำกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ รวมถึงพื้นที่สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม
- พื้นที่สำนักงาน จะประกอบไปด้วยพื้นที่ให้เช่าประมาณ 30,000 ตารางเมตร ซึ่งถูกออกแบบในคอนเซ็ปต์ทันสมัย เปิดโล่ง และเป็นพื้นที่แบบแชร์พื้นที่ทำงานร่วมกัน หรือ co-working space โดยพื้นที่สำหรับสำนักงานจะดึงดูดคนทำงานรุ่นใหม่ ด้วยคอนเซ็ปต์ Innovative Office Park ที่เปิดโอกาสให้คนทำงานได้ทำงานในออฟฟิศที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แทนที่จะรู้สึกว่าติดอยู่ในอาคารสำนักงาน
นอกจากนั้น ยังมีพื้นที่เฉพาะสำหรับการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีและการวิจัย เพื่อส่งเสริมให้เกิดเป็นระบบนิเวศของการสร้างสรรค์นวัตกรรมรูปแบบใหม่ (Innovation Ecosystem) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ในการคิดค้นทำสิ่งใหม่ ๆ ในด้านต่างๆ ให้เกิดขึ้นอีกมากมาย ซึ่งหมายรวมถึงการเป็นแหล่งความรู้และเทคโนโลยี ที่สามารถสร้างและต่อยอดเครือข่าย ตลอดจนเป็นแหล่งของการระดมเงินทุนจากสังคม หรือที่เรียกว่า Crowd Funding และบริการที่ปรึกษาอย่างมืออาชีพ
- พื้นที่โครงการที่พักอาศัย จำนวน 3 อาคาร มีขนาดพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 140,000 ตารางเมตร ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ไม่อยู่นิ่งอยู่กับที่ โดยทุกยูนิตจะมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น ด้วย Smart Home Automation System เทคโนโลยีอันทันสมัยและชาญฉลาด ที่ผู้พักอาศัยสามารถสั่งการทำงานต่างๆ ในบ้านได้จากระยะไกลแม้อยู่นอกบ้าน ทั้งการสั่งเปิดปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ และโทรทัศน์ มีแอพลิเคชั่นพิเศษ Whizdom Society Apps ที่ผู้พักอาศัยสามารถใช้จองฟิตเนส ร้านอาหาร หรือกิจกรรมต่างๆ ในโครงการ วิสซ์ดอม 101 ได้อย่างสะดวกสบาย เป็นส่วนหนึ่งของสิทธิพิเศษสำหรับเจ้าของที่พักอาศัยในชุมชนแห่งนี้
นอกจากนั้นยังมีสนามเด็กเล่น ลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง เลนจักรยาน ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับผู้พักอาศัย
นายวิสิษฐ์ กล่าวว่า “ส่วนผสมระดับสากลของ Whizdom 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) จะเป็นที่ถูกใจและดึงดูดใจกลุ่มคนวัยทำงานรุ่นใหม่มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนที่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เปิดโอกาสและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเพิ่มพูนศักยภาพตัวเองได้อย่างมากมายหลายมิติ ผ่านกิจกรรมทางสังคมและวัฒนธรรมต่างๆ ที่มีในโครงการ และโครงการแห่งนี้ ยังจะเป็นที่ถูกใจของกลุ่มคนที่ต้องการอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการมีสุขภาพดี และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอีกด้วย”
Whizdom 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) ตั้งอยู่ติดกับสุขุมวิทซอย 101 และจะมีทางเชื่อมต่อแบบสกายวอร์คกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีปุณณวิถี สามารถเดินเท้าได้ภายในเวลาเพียง 5 นาที
คาดว่าจะเริ่มงานเคลียร์พื้นที่ได้ในไตรมาสสุดท้ายปี 2558 และมีกำหนดแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2561