คอฟฟี่เวิร์คส์ ตั้งเป้า 400 ล้านบาท พร้อมรุกตั้ง "เอ็กซพีเรียนซ์ เซ็นเตอร์" ปักหมุดทั่วประเทศภายใน 3 ปี
มร. เดล ลี ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท คอฟฟี่เวิร์คส์ จำกัด กล่าวว่า "ในปีนี้คอฟฟี่เวิร์คส์ ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และบริษัทฯจึงได้ต่อยอดในการปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขายและปรับภาพลักษณ์ ในการรุกตลาดที่มีการเติบโตและการแข่งขันที่สูงขึ้น ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ภาพรวมธุรกิจมีการชะลอตัวนั้น มิได้ส่งผลกระทบต่อคอฟฟี่เวิร์คส์ โดยบริษัทฯมีอัตราการเติบโตประมาณ 30% ปีต่อปี โดยผลประกอบการของบริษัทฯในปีที่แล้ว มียอดรายได้รวม 115 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นเพราะกาแฟคุณภาพเยี่ยมของ คอฟฟี่เวิร์คส์ได้รับเลือก ในการเป็นซัพพลายเออร์ให้กับกลุ่มลูกค้าในธุรกิจ F&B ระดับไฮเอนด์ และกลุ่มโรงแรม 5 ดาวที่เข้ามาประกอบการในประเทศไทย อาทิ ดีน แอนด์ เดลูกา, โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ, แมคคาเฟ่, และบลูคัพ คอฟฟี่ บาย เอส แอนด์ พี เป็นต้น โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจากกาแฟคั่วบด 85% และ 15% จากการจำหน่ายเครื่องทำกาแฟนำเข้า ทั้งนี้ คอฟฟี่เวิร์คส์ เน้นการจำหน่ายกาแฟคั่วบดที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยมเพื่อให้ลูกค้าได้มั่นใจในการเสิร์ฟกาแฟคุณภาพคับแก้วจากเครื่องทำกาแฟระดับโลก"
"ปัจจุบัน คอฟฟี่เวิร์คส์มีส่วนแบ่งตลาดคิดเป็น 10% ในเซกเม้นท์กาแฟสำหรับลูกค้ากลุ่มโรงแรมในประเทศไทยโดยส่วนแบ่งตลาดดังกล่าว เป็นการเทียบจากอัตราการเติบโตของบริษัทฯและรูปแบบธุรกิจของกลุ่มลูกค้าของคอฟฟี่เวิร์คส์" มร. เดล กล่าวต่อ
"ในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯได้ลงทุนในการสร้าง คอฟฟี่เวิร์คส์ เอ็กซพีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ มูลค่า 10 ล้านบาท ด้วยพื้นที่ 150 ตร.ม. ในซอยสุขุมวิท 26 เพิ่มเติมจากการลงทุนสร้างโรงงานใหม่เมื่อปลายปี 2555 ในจังหวัดสมุทรปราการ โดย "คอฟฟี่เวิร์คส์ เอ็กซพีเรียนซ์ เซ็นเตอร์" ไม่เพียงแต่จะสร้างการรับรู้ ในเรื่องตราสินค้า (Branding) ให้แก่ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาแล้ว ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ เกี่ยวกับกาแฟแบบครบวงจร ด้วยการให้ความรู้ในเรื่องกาแฟ โดยผู้เชี่ยวชาญที่ประจำอยู่ ณ ศูนย์ฯ นี้ การจัดอบรมเทรนนิ่งต่างๆ การจำหน่ายปลีกกาแฟ สเปเชียลตี้คั่วบดบรรจุถุง ตลอดจนการโชว์ดิสเพลย์สินค้า เครื่องทำกาแฟแบรนด์ต่างๆ และจุดบริการหลังการขายเพื่อบริการลูกค้ากลุ่มธุรกิจ และลูกค้าแบบวอล์ค-อิน อีกด้วย" มร. เดล กล่าว
มร. เดล ลี และ มร. แอนดรูว์ สต็อทซ์ เป็น 2 ผู้ก่อตั้งคอฟฟี่เวิร์คส์ โชว์เครื่องคั่วกาแฟคลาสสิกโบราณอายุ 65 ปียี่ห้อ วิตตอเรีย (Vittoria) ซึ่งนับว่าเป็นแบรนด์เครื่องคั่วกาแฟที่มีชื่อเสียงระดับไอคอน ผลิตที่เมืองโบโลญ่า ประเทศอิตาลี ซึ่งยังใช้ได้จริงและใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการศึกษาและพัฒนาของบริษัทฯอีกด้วย
มร. เดล กล่าวเพิ่มเติมว่า "ก่อนหน้านี้ คอฟฟี่เวิร์คส์ได้มีสำนักงานสาขาเพื่อให้บริการหลังการขายเป็นเวลาหลายปี ที่เกาะสมุย ภูเก็ต และเชียงใหม่ แต่บริษัทฯได้มองเห็นศักยภาพจากการเติบโตของมาร์เก็ตแชร์และพฤติกรรมการบริโภคกาแฟที่เพิ่มมากขึ้น ในประเทศไทยในอัตราที่สูงขึ้น เรื่อยๆ จะเห็นได้ว่าเมื่อครั้งที่คอฟฟี่เวิร์คส์ ได้เริ่มดำเนินกิจการตั้งแต่ปี 2538 นั้น ประเทศไทยมีปริมาณ การบริโภคกาแฟคิดเป็น 500 กรัมต่อหัว ในปัจจุบันการบริโภคได้เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า เป็น 800 กรัมต่อหัว คิดเป็นจำนวน 55,000 ตัน อย่างไรก็ตาม 80% ยังเป็นการบริโภคกาแฟแบบพร้อมชง (instant coffee) ซึ่งรวมทั้งแบบ 3 in 1 และแบบบรรจุกระป๋อง โดย 10% ของจำนวนผู้บริโภครวมนั้น ได้เปลี่ยนมาบริโภคกาแฟแบบคั่วบด คิดเป็นจำนวนรวมถึง 5,500 ตันในการผลิตกาแฟแบบคั่วบด"
คอฟฟี่เวิร์คส์ จะเริ่มรุกตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยแผนระยะเวลา 3 ปี โดยภายในปี 2561 จะมีการเปิด “คอฟฟี่เวิร์คส์ เอ็กซพีเรียนซ์ เซ็นเตอร์” เพิ่มเติมทั่วประเทศ อาทิ หัวหิน พัทยา ขอนแก่น ซึ่งเป็นตลาดที่ คอฟฟี่เวิร์คส์มีสำนักงานบริการหลังการขายอยู่แล้ว เพื่อตอบโจทย์ให้แก่ลูกค้ากลุ่ม B2B ทั้งปัจจุบันและลูกค้าใหม่ เพื่อให้ได้รับโอกาสการฝึกอบรมและความรู้เกี่ยวกับกาแฟเท่ากันกับลูกค้าในกรุงเทพฯ
มร. แอนดรูว์ สต็อทซ์ - ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการด้านการเงิน บริษัท คอฟฟี่เวิร์คส์ จำกัด
เกี่ยวกับ คอฟฟี่เวิร์คส์
http://www.coffeeworks.co.th/
https://www.facebook.com/myCoffeeWORKS
