ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จัดงานครั้งยิ่งใหญ่ Xperience Efficiency 2015 เผยเคล็ดลับสีเขียวสู่ความสำเร็จของธุรกิจที่ยั่งยืน
กรุงเทพฯ – 14 พฤษภาคม 2558: ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านการบริหารจัดการพลังงานระดับโลก จัดงาน Xperience Efficiency 2015 ระดมผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน มาร่วมเผยเคล็ดลับเทคโนโลยีสีเขียว นำความยั่งยืนสู่ธุรกิจ และแนวทางในอนาคต ยกประเด็นอาคารสำนักงานใหญ่ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศฝรั่งเศส เป็นกรณีศึกษาจากการใช้โซลูชั่นสุดไฮเทคประหยัดพลังงานได้ถึง 4 เท่า พร้อมยกทัพจัดเต็มเทคโนโลยีการจัดการไฟฟ้าและพลังงาน ทั้ง ในโรงงาน อาคาร และที่พักอาศัย ตลอดจนดาต้าเซ็นเตอร์ ตอบโจทย์ครบทุกธุรกิจ ในงานเดียว
มร.มาร์ค เพลิทิเยร์ ประธาน บริษัท ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย กล่าวว่า “ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีความภูมิใจและยินดีที่ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านพลังงานที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยให้เกียรติมาร่วมกันถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ อันจะนำมาสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ดร.นิพนธ์ เกตุจ้อย รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย หัวหน้าหน่วยวิจัยเซลล์เเสงอาทิตย์วิทยาลัยพลังงานทดแทน จากมหาวิทยานเรศวร คุณสุวัฒน์ กมลพนัส กรรมการผู้จัดการธุรกิจ Alternative Power บริษัท มิตรผลไบโอ เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานพลังงานชีวมวลไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และ ศจ.ดร.สุนทร บุญญาธิการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการพลังงานสำหรับที่อยู่อาศัย ซึ่งผู้ที่มาร่วมงานสามารถเก็บเกี่ยวสิ่งที่เป็นประโยชน์จากประสบการณ์ของท่านเหล่านี้ เพื่อนำไปปรับใช้ในองค์กรของตนเอง เพราะเรื่องของพลังงานไม่ใช่เรื่องของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง องค์กรใด องกรหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่จะมีส่วนร่วมช่วยกันขับเคลื่อนให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน”
“ในโลกของธุรกิจทุกวันนี้ ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเป็นปัญหาสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับภาคธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น อาคาร ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจโรงแรม โรงพยาบาล อาคารพาณิชย์ พลังงานจะถูกใช้ไปในส่วนต่าง ๆ โดยกระบวนการวางระบบความร้อน-เย็น และระบายอากาศ (HVAC) ใช้พลังงานคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 50 ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด ในขณะที่ระบบแสงสว่างมีการใช้พลังงานร้อยละ 20 และระบบทำความร้อนใช้พลังงานร้อยละ 10 และการใช้พลังงานในด้านอื่นๆ อีก 20 เปอร์เซ็นต์ จะเห็นได้ว่าในอาคารมีการใช้พลังงานมากมาย การประหยัดพลังงานให้ได้ถึงขีดสุด การใช้ความร่วมแรงร่วมใจของพนักงานอาจจะยังไม่เพียงพอ การใช้เทคโนโลยีและโซลูชั่นของระบบจัดการพลังงาน และการออกแบบระบบต่างๆ เข้ามาช่วย จะทำให้เกิดการลดการใช้พลังงานได้มากที่สุดและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด”
จากกรณีศึกษา อาคารเลอไฮว์ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ประเทศฝรั่งเศส มีพื้นที่ 35,000 ตารางเมตร เป็นสำนักงาน 7 ชั้น มีพนักงาน 1,850 คน ในปี 2008 ใช้พลังงานทั้งสิ้น 320 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ต่อตารางเมตร ต่อปี ปัจจุบันใช้พลังงานเพียง 74 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ต่อตารางเมตร ต่อปี ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในการลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาคารเลอไฮว์เป็นอาคารแห่งแรกของโลกที่ผ่านใบรับรอง 4 มาตรฐาน คือ มาตรฐาน ISO 50001
มาตรฐานด้านการจัดการพลังงาน มาตราฐาน ISO 140001 มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม มาตรฐาน HQE ใบรับรองด้านการจัดการอาคารอย่างยั่งยืน และมาตรฐาน BREEAM (Building Research Establishment Environmental Assessment Method for buildings) ใบรับรองด้านโมเดลพลังงานและการปฎิบัติการด้านพลังงาน
โซลูชั่นในการจัดการพลังงานที่ อาคารเลอไฮว์คือ “ระบบจัดการอาคารอัจฉริยะ หรือ Building Management System (BMS)” ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่รวมเทคโนโนโลยีต่างๆ เข้าด้วยกัน ได้แก่ การมอนิเตอร์ การควบคุมและการจัดการพลังงาน ระบบแสงสว่าง ระบบป้องกันเพลิงไหม้ ระบบรักษาความปลอดภัย และระบบจัดการกระบวนการวางระบบความร้อน-เย็น และระบายอากาศ โดยสามารถบริหารจัดการพลังงานส่วนต่างๆ ได้ ให้ความคุ้มค่าในการลงทุนด้วยแนวคิดการวางระบบสถาปัตยกรรมแบบ EcoStruxure คือการเลือกติดตั้งอุปกรณ์หรือดัดแปลงตามความจำเป็นของลูกค้าตามธุรกิจ และซอฟต์แวร์บริหารจัดการ
นายมาร์ค กล่าวต่อว่า “ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการพลังงานระดับโลกรายแรกๆ ที่มีการใช้เทคโนโลยีไอทีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการพลังงาน พร้อมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์ม และซอฟต์แวร์ของตัวเอง เพื่อใช้ในการส่งผ่านข้อมูล หรือควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งของชไนเดอร์ อิเล็คทริค และอุปกรณ์แบรนด์อื่นได้อย่างลงตัว ในโครงสร้างสถาปัตยกรรม อีกทั้งวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ภายใต้แบรนด์ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังผลิตจากวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และได้รับมาตรฐานระดับโลกอีกด้วย”
นอกจากโซลูชั่นสำหรับอาคาร ภายในงาน Xperience Efficiency 2015 ชไนเดอร์ อิเล็คทริคยังได้นำนวัตกรรมและโซลูชั่น อื่นๆ อีกมากมายมาจัดแสดง ที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างยั่งยืน เช่น
โซลูชั่นสำหรับกรีนไอทีและดาต้าเซ็นเตอร์ ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่สามารถนำเอาอุปกรณ์ซึ่งผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น เครื่องยูพีเอส เทคโนโลยีล่าสุด Galaxy VM, Inrow Cooling, StruxureWare มาออกแบบได้อย่างลงตัว โดยสามารถลดการใช้พลังงานได้อย่างเห็นผล และสามารถแสดงพร้อมคำนวนการใช้พลังงานได้ทั้งระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านระบบบริหารจัดการดาต้าเซ็นเตอร์แบบครบวงจรที่สุดในโลกของชไนเดอร์ อิเล็คทริค (DCIM) ซึ่งผู้ดูแลดาต้าเซ็นเตอร์สามารถตรวจสอบ ดำเนินการวิเคราะห์ และจัดสรรการใช้พลังงาน ระบบทำความเย็น ระบบรักษาความปลอดภัย และระบบต่างๆ ให้ทำงานได้อย่างเหมาะสม และช่วยลดต้นทุนธุรกิจ ดังนั้น องค์กรก็ช่วยลดสภาวะโลกร้อนและคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้อีกด้วย
โซลูชั่นสำหรับบ้าน และที่อยู่อาศัย เปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็นบ้านอัจฉริยะ โดยควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ไม่ว่าจะเป็นระบบแสงสว่าง แอร์คอนดิชั่น ระบบม่าน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้าน พร้อมสามารถในการเพิ่มฟีเจอร์ได้ตามความต้องการ ด้วยเทคโนยีล่าสุด อีซี่ อินสตอลล์3 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่าย สามารถรองรับการติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องการเพิ่มเติมได้อีกในอนาคต สามารถเรียกดูสถานะการใช้พลังงานในส่วนต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มความสะดวกสบาย และช่วยประหยัดพลังงานให้กับผู้ใช้ในยุคดิจิตอลได้อย่างลงตัว”
โซลูชั่นสำหรับโรงงาน ยกระดับโรงงานให้เป็นโรงงานอัจฉริยะด้วยระบบออโตเมชั่น นวัตกรรมด้านการบริการที่ฝังตัวมากับผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นแบบครบวงจร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้โรงงาน ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน งานนี้เป็นการเผยโฉมเทคโนโลยีระบบควบคุมมอเตอร์ประหยัดพลังงานครั้งแรก Altivar Process อุปกรณ์ปรับความเร็วรอบมอเตอร์ ประหยัดพลังงานช่วยลดฮาโมนิกได้สูงสุด มาพร้อมกับจุดเด่นในการให้บริการ โดยมีคิวอาร์โค้ดที่ผู้ใช้สามารถลิงก์เข้าหน้าสเปกโปรดักส์ได้ทันที และถ้าเกิดความผิดพลาดในระบบ ตัวมันเอง และอุปกรณ์รุ่นใหม่สามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ง่ายในการใช้งานภายในงานยังมีการสาธิตโซลูชั่นซอฟต์แวร์ระบบควบคุมไฟฟ้าแบบอัตโนมัติของสถานีไฟฟ้า PACiS Substation Automation รุ่นล่าสุด ช่วยตรวจสอบและควบคุมระบบไฟฟ้าสำหรับโรงงาน กลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงโรงไฟฟ้า ซึ่งให้ความปลอดภัยสูงด้วยการตัดโหลดไฟภายในเวลา 0.08 วินาที นอกจากนี้แล้ว ยังมีบริการ ECOFIT เป็นการอัพเกรดระบบจ่ายไฟฟ้าในโรงงานโดยใช้เวลาที่สั้นที่สุด เพื่อให้โรงงานปิดซ่อมบำรุงในระยะเวลาสั้นที่สุด และการทำงานเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง
จากการจัดงาน Xperience Efficiency 2015 ในครั้งนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค คาดหวังในการเป็นส่วนหนึ่ง ที่กระตุ้นให้ทั้งภาคธุรกิจและประชาชน ตระหนักถึงการใช้พลังงาน อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถือเป็นการลดการใช้ทรัพยากร ในการผลิตพลังงานอีกด้วย ซึ่งนอกจากช่วยองค์กรแล้ว ยังเป็นการช่วยโลก ช่วยชาติอีกทางหนึ่งด้วย
เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการพลังงานระดับโลกมีสํานักงานในกว่า 100 ประเทศ พร้อมนําเสนอโซลูชันแบบครบวงจรเพื่อธุรกิจในกลุ่มต่างๆ เป็นผู้นําทั้งในกลุ่มธุรกิจด้านสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมและเครื่องจักร อาคารเพื่อการพาณิชย์ ดาต้าเซ็นเตอร์และระบบเครือข่าย ไปจนถึงกลุ่มที่พักอาศัย โดยเน้นไปที่การสร้างพลังงานที่ปลอดภัย มั่นใจได้ มีประสิทธิภาพที่ดี ให้ผลิตผลสูง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จนทําให้พนักงานของเรากว่า 170,000 คน สามารถสร้างรายได้ประมาณ 25 พันล้านยูโร หรือประมาณ 1,000,000 ล้านบาท ในปี 2557 ผ่านความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้บุคคลและองค์กรบรรลุประโยชน์จากพลังงานได้อย่างสูงสุด ข้อมูลเพิ่มเติม www.schneider-electric.com/th