ADS


Breaking News

การเข้าตลาดฯ วันแรกของ GPSC สะท้อนก้าวใหม่ของโฉมหน้าธุรกิจพลังงานไฟฟ้าไทย

     GPSC บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) พร้อมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า และสาธารณูปโภคไทย ที่จะก้าวไกล ในต่างแดน นักลงทุนขานรับ หลังการเข้าซื้อขาย ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก เนื่องจากพื้นฐานดี มีรายได้มั่นคง ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และมีความเป็นมืออาชีพ รวมถึงมีศักยภาพในการเติบโต อย่างก้าวกระโดด ตามแผนการขยายธุรกิจ ที่มีความชัดเจน  ทั้งเป้าหมายในระยะสั้นและระยะยาว
ดร .ไพรินทร์ ชูโชติถาวร (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายสุรงค์ บูลกุล (กลางซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ  บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)  นายนพดล ปิ่นสุภา (กลางขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)  ดร.สันติ กีระนันทน์ (ซ้ายสุด) รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ นายวราห์ สุจริตกุล (ขวาสุด) กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะตัวแทนของผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ซึ่งประกอบด้วย บล. เคที ซีมิโก้, บล. ฟินันซ่า และ บล. ทิสโก้ ร่วมแสดงความยินดีในวันซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ โถงนิทรรศการ ชั้น 1 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆนี้
     บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เป็นบริษัทผู้นำทางการผลิตและการจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และสาธารณูปโภคขนาดกลางที่เข้มแข็ง เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง แม้ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และไม่ค่อยได้รับผลกระทบ จากความผันผวนของตลาดหุ้น เนื่องจากประกอบธุรกิจสาธารณูปโภค ขั้นพื้นฐาน ทั้งยังมีกลุ่มลูกค้าหลัก เป็นหน่วยงานภาครัฐและอุตสาหกรรม ที่มีความมั่นคง มีการทำสัญญาระยะยาว ซึ่งทำให้บริษัท ได้รับรายได้ที่แน่นอน ล่าสุด GPSC ได้จัดทำสัญญาซื้อขาย สาธารณูปโภคกับ บริษัท พีทีที ฟีนอล จำกัด (PPCL) โดยมี บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด 100% เพื่อจ่ายให้กับโรงงานฟีนอล แห่งที่ 2 (PPCL2) โดยสัญญามีอายุ 15 ปี นับจากวันที่เริ่มรับสาธารณูปโภค ในเชิงพาณิชย์ มีปริมาณตามสัญญา ดังนี้ ไฟฟ้า 11.5 MW ไอน้ำ 130 ตัน/ชั่วโมง และน้ำอุตสาหกรรม 34 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ซึ่งการจัดทำสัญญา ซื้อขายครั้งนี้ แสดงถึงความเชื่อมั่น ที่ลูกค้ามีต่อ GPSC ว่าสามารถจัดหาสาธารณูปโภค เพื่อรองรับความต้องการ ใช้ในปัจจุบันและมีความพร้อม ในการรองรับการเจริญเติบโตของลูกค้า และการขยายตัว ของภาคอุตสาหกรรม ในอนาคตอีกด้วย รวมทั้งยังมีผู้บริหารที่มีความเป็นมืออาชีพ ในการขยายธุรกิจให้เติบโต ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ส่งผลต่อการเจริญเติบโต ทางเศรษฐกิจของบริษัท ด้วยเหตุนี้ หุ้น GPSC จึงเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจ เป็นอย่างยิ่งและได้รับการตอบรับ อย่างเกินความคาดหมาย
     นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เปิดเผยว่า “GPSC มุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่ง ในผู้นำด้านธุรกิจไฟฟ้า ของภูมิภาคเอเชีย เพื่อสร้างฐานที่มั่นคง ให้กับธุรกิจพลังงานไฟฟ้าและสาธารณูปโภค ของไทยให้ก้าวไกลและเติบโต ได้อย่างมั่นคง โดยการระดมทุนครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้ ไปลงทุนในการขยายกิจการ ในธุรกิจต่างๆ ของ GPSC ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งนำไปใช้ เป็นเงินทุนหมุนเวียน ในการดำเนินงานของ GPSC ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งนี้ มีเป้าหมายระยะสั้น ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า ติดตั้งรวมตามสัดส่วนการถือหุ้น เพิ่มจากปัจจุบันอีก 600–1,000 เมกะวัตต์ ภายในปีพ.ศ. 2562 โดยเน้นการเข้าซื้อกิจการ โรงไฟฟ้า และลงทุนพัฒนา โครงการโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น (Cogeneration Power Plant) โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Combined Cycle Power Plant) และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ซึ่งจะดำเนินการ ควบคู่กับเป้าหมายระยะยาว ที่จะขยายตัวไปยังธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ” กลยุทธ์ที่วางไว้ สะท้อนให้เห็นถึงโอกาส ในการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด ในอนาคตของบริษัท
     “นอกจากนี้ ในผลประกอบการไตรมาสแรก ของปี พ.ศ. 2558 GPSC ยังมีอัตราการเติบโต ของกำไรสุทธิ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความสามารถ ในการทำกำไรของบริษัท ตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ โดยมีอัตราการเติบโต ของกำไรสุทธิถึง 444.6% หรือ เพิ่มจาก 98 ล้านบาทในปี 2557 เป็น 531 ล้านบาทในปี 2558 ในขณะที่ มีรายได้เพิ่มขึ้น 30.04% จาก 4,978 ล้านบาทในปี 2557 เป็น 6,473 ล้านบาทในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก  การดำเนินการตามยุทธศาสตร์ระยะสั้น ในการเข้าลงทุน ในกิจการที่พร้อมปฏิบัติการ และที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยคาดว่า หากโครงการเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด จะทำให้รายได้และกำไรของบริษัท เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนในอนาคตระยะยาว GPSC ก็จะเน้น ในการลงทุนในโครงการใหญ่ และโครงการเกี่ยวเนื่องอื่น ๆ เพื่อสร้างความมั่นคง ในการขยายตัวและเติบโต” นายนพดลกล่าว
Untitled Document
     อนึ่ง GPSC ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 374.58 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 8, 11 และ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยได้กำหนดราคาไว้ที่ 27 บาท ต่อหุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 10.00 บาท หากคำนึงถึงลักษณะธุรกิจ กลุ่มลูกค้า แผนกลยุทธ์ที่ไตร่ตรอง อย่างรอบด้าน รวมถึงความเป็น มืออาชีพและบรรษัทภิบาล ของผู้บริหาร GPSC จัดเป็นหุ้นที่น่าจับตามอง มากที่สุดตัวหนึ่งที่จดทะเบียน อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไทย เลยทีเดียว
   ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.gpscgroup.com/