บุญรอดบริวเวอรี่ เปิดตัวโครงการภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” เผยแพร่ภาพยนตร์ ๔ เรื่อง ผลงาน ๔ ผู้กำกับดัง ผู้ได้รับแรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่า
เป็นที่ทราบดีว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระปรีชาสามารถทางดนตรีอย่างรอบด้าน ไม่เพียงทรงฟังเพื่อความเพลิดเพลินเท่านั้น หากยังทรงฝึกฝนการเขียนโน้ตและการบรรเลงดนตรีคลาสสิคตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ พระปรีชาสามารถในการพระราชนิพนธ์เพลง รวมถึงการทรงดนตรีได้หลายประเภท พระอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระองค์จึงเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทรงร่วมบรรเลงดนตรีกับนักดนตรีระดับโลกมาแล้วในหลายโอกาส
อีกทั้งสถาบันการดนตรีและศิลปะการแสดงแห่งกรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย ได้ถวายพระเกียรติให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ ลำดับที่ ๒๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๖ บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่ทรงพระราชนิพนธ์ไว้รวม ๔๘ เพลง ต่างมีความหมาย มีที่มาที่น่าสนใจ บางเพลงพระราชทานเพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต บางบทเพลงก่อให้เกิดความสุขสนุกสนาน และบางบทเพลงก็เพื่อสร้างแง่คิดถึงความรู้สึกรักชาติ รักแผ่นดิน
ณัฐวรรณ ทีปสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ และสื่อสารองค์กร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวถึง ความเป็นมาของโครงการฯ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระปรีชาสามารถด้านดนตรีและการพระราชนิพนธ์เพลง และเผยแพร่บทเพลงพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่าให้เป็นที่ประจักษ์ รวมทั้งให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทาน บทเพลงพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่า และนำเรื่องราวจากภาพยนตร์ ไปเป็นแรงบันดาลใจในการคิดและปฏิบัติตนให้เป็นคนดีต่อสังคม โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่
“ปีที่ผ่านมา บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้น้อมนำเรื่องราวพระปรีชาสามารถทางดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเผยแพร่ เพื่อเทิดพระเกียรติคุณนี้ให้เป็นที่ประจักษ์ ผ่านรูปแบบสารคดี และการจัดทำแคมป์สำหรับเยาวชน และในครั้งนี้จึงมีแนวคิดในการผลิตภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชื่อชุด “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” จำนวน ๔ เรื่อง ความยาวรวม ๑๓๐ นาที เพื่อเข้าถึงทุกคนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ พร้อมเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๔ บทเพลง ที่มีความไพเราะ และมีความหมายลึกซึ้ง มาเป็นแรงบันดาลใจในแนวคิดของ แต่ละเรื่อง”
อีกทั้งสถาบันการดนตรีและศิลปะการแสดงแห่งกรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย ได้ถวายพระเกียรติให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ ลำดับที่ ๒๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๖ บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่ทรงพระราชนิพนธ์ไว้รวม ๔๘ เพลง ต่างมีความหมาย มีที่มาที่น่าสนใจ บางเพลงพระราชทานเพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต บางบทเพลงก่อให้เกิดความสุขสนุกสนาน และบางบทเพลงก็เพื่อสร้างแง่คิดถึงความรู้สึกรักชาติ รักแผ่นดิน
เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ และเผยแพร่พระปรีชาสามารถ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านดนตรีให้เป็นที่ประจักษ์ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้จัดงานแถลงข่าวโครงการภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” ในวันพุธที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๘ ณ โรงภาพยนต์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยาม พารากอน
ภายในงาน ณัฐวรรณ ทีปสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมเปิดเผยที่มาของโครงการฯ พร้อมด้วย ๔ ผู้กำกับภาพยนตร์มือฉมังของเมืองไทย ได้แก่ นนทรีย์ นิมิบุตร, วัลลภ ประสพผล, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ และยงยุทธ ทองกองทุน ที่จะมาถ่ายทอดความประทับใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นสำคัญนี้ และรับชมการขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงสายฝน จากนักร้องระดับตำนานของเมืองไทย อัญชลี จงคดีกิจ และเพลง ยิ้มสู้ โดยศิลปินเก็ตสึโนวา (Getsunova)“ปีที่ผ่านมา บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้น้อมนำเรื่องราวพระปรีชาสามารถทางดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเผยแพร่ เพื่อเทิดพระเกียรติคุณนี้ให้เป็นที่ประจักษ์ ผ่านรูปแบบสารคดี และการจัดทำแคมป์สำหรับเยาวชน และในครั้งนี้จึงมีแนวคิดในการผลิตภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชื่อชุด “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” จำนวน ๔ เรื่อง ความยาวรวม ๑๓๐ นาที เพื่อเข้าถึงทุกคนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ พร้อมเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๔ บทเพลง ที่มีความไพเราะ และมีความหมายลึกซึ้ง มาเป็นแรงบันดาลใจในแนวคิดของ แต่ละเรื่อง”
ทั้งนี้บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระปรีชาสามารถด้านดนตรี โดยจัดทำสารคดีสั้น ชุด คีตราชา จำนวน ๑๐ ตอน บอกเล่าเรื่องราวความประทับใจของศิลปิน นักร้อง และผู้ถวายงานใกล้ชิดด้านดนตรี ที่มีต่อบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ยังได้จัดทำโครงการ Pro Musica Junior Camp supported by Boon Rawd Brewery โดยคัดเลือกนักดนตรีเยาวชนจากภูมิภาคต่างๆ มาเข้าคอร์ส อบรมฝึกฝนการเล่นเครื่องสาย โดยคณะคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากคณะดุริยางค์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และร่วมบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ในการแสดงชุด “Pro Musica Junior Concert” ณ พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ พระราชวังพญาไท ซึ่งกิจกรรมต่างๆ นั้น ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
สำหรับภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติชุดนี้ประกอบด้วย เรื่อง “The Singers” กำกับโดย นนทรีย์ นิมิบุตร ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ชะตาชีวิต” ขับร้องโดย นีรนุช ปัทมสูต และ ธนิดา ธรรมวิมล (ดา เอ็นโดรฟิน), เรื่อง “อมยิ้ม” กำกับโดย วัลลภ ประสพผล ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ยิ้มสู้” ขับร้องโดย ปราการ ไรวา จากวงดนตรีเก็ตสึโนวา, เรื่อง “ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง” กำกับโดย ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “สายฝน” ขับร้องโดย อัญชลี จงคดีกิจ และเรื่อง “ดาว” กำกับโดย ยงยุทธ ทองกองทุน ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ความฝันอันสูงสุด” ขับร้องโดย สหรัถ สังคปรีชา และ ด.ญ.กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ
ร่วมชมภาพยนตร์ “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” ที่สร้างจากแรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีกำหนดการเผยแพร่ภาพยนตร์ในรอบปฐมทัศน์ วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ และระหว่างวันที่ ๗ - ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ในโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ทั้ง ๑๐ สาขา ได้แก่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขาปิ่นเกล้า รังสิต รัชโยธิน ชลบุรี และเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่, อีจีวี ขอนแก่น และ โคราช, พารากอน ซีนีเพล็กซ์, เมกา ซีนีเพล็กซ์ และหาดใหญ่ ซีนีเพล็กซ์ โดยในวันที่ ๗ และ ๘ พฤษภาคม ฉาย ๑ รอบ เวลา ๑๙.๓๐ น., วันที่ ๙ และ ๑๐ พฤษภาคม ฉาย ๔ รอบ เวลา ๑๑.๐๐ น., ๑๔.๐๐ น., ๑๗.๐๐ น., และ ๒๐.๐๐ น. สามารถติดตามรายละเอียดและรับบัตรชมฟรีได้ที่ www.คีตราชนิพนธ์.com